วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ - ๐๘.๒๐ น. ณ ถนนสายบุญ และห้องกิจกรรม ๒ ชั้น ๘  อาคารคณะศึกษาศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ผู้ปกครองโครงการการศึกษาพิเศษ พ.๒ และผู้ปกครองชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เป็นเจ้าภาพ ทำบุญถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ โดยนิมนต์ พระมหาสนั่น สนฺตจิตฺโต จากวัดเสมียนนารี พระอารามหลวง รับบาตรและแสดงธรรมแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ความว่า “ความดีที่ควรทำมีหลัก ๆ อยู่ ๓ เรื่อง ๑. ทาน การแบ่งปันสิ่งของให้กับผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ๒. ศีล การรักษาศีลรู้จักควบคุมกาย วาจา ใจ ให้สงบขจัดความโกรธ ๓. ภาวนา การทำจิตใจให้สงบ เข้าใจความเป็นจริง ขจัดความหลงเจริญใจ อันเกิดจากการได้ยินได้ฟัง ชีวิตเดินทางมาถึงปัจจุบันได้เกิดจากเหตุปัจจัยซึ่งทุกอย่างก็เกิดจากความดี เรามาเจอกันได้เพราะเราได้สร้างความดีร่วมกันไว้ แต่ถ้าเราสร้างสิ่งที่ไม่ดี เราก็จะมาเจอกันในรูปแบบที่ไม่ดีอาจจจะมาเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน อนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่เราได้สร้างที่เราได้ทำเอาไว้ เราทุกคนสามารถพูดได้คิดได้ แต่ก็ต้องกระทำด้วยถ้าไม่กระทำก็จะไม่เกิดผล อนาคตเราจะมาเจอกันอย่างไร ขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่เราได้กระทำเอาไว้ เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ เราไม่รู้เลยว่าอนาคตต้นไม้ต้นนี้จะโตมาเป็นอย่างไร แต่ถ้าเรารดน้ำพรวนดินดี ให้ปุ๋ยดี ต้นไม้ก็เจริญงอกงามสวยงาม เปรียบเสมือนการเลี้ยงดูปลูกฝังลูกเราอยากให้เขาเป็นคนดีหรืออยากให้เขาเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ผู้ปกครองที่ได้ปลูกฝังเอาไว้ นักเรียนจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับครูที่จะปลูกฝังและสั่งสอนอบรมให้เขาประพฤติตนและทำแต่สิ่งดี ๆ เขาก็จะเป็นคนดีมีคุณธรรม และใครที่ทำดีประพฤติดีก็จะมีความเจริญก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานอนาคตจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ปัจจุบันเราได้กระทำไว้ บุญก็เปรียบเสมือนกับเงินทอง ตอนที่เรามีเงินถ้าไม่ฝากก็หมดบุญกุศลหากใช้ทุกวันถ้าเราไม่เสริมเติมเข้าไปก็มีโอกาสที่จะหมดได้ ในยามบุญหมดทำอะไรก็อาจจะเกิดแต่ปัญหาเลี้ยงหมู หมูก็ตาย มีสามีก็ไม่ได้ดั่งใจ มีแต่สหายก็ใจคด มีผู้ใหญ่ก็ทรยศ มีลาภเสื่อมลาภมียศเสื่อมยศควบคู่กันไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุปัจจัยเปรียบเสมือนนาฬิกามีขึ้นก็ต้องมีลงสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป”